ครูแพร สอนภาษาไทย
ไอแดดเพชรบุรีสาดซ่าน แต่ครูแพรไม่หวั่น พุ่ง Isuzu D-Max คู่ใจ คันใหม่ป้ายแดง แล่นเลียบชายแม่น้ำเพชร สะบัดผมรับลมทะเล มุ่งหน้าโรงเรียน วันนี้พิเศษ ชวนหนู ป.4 ล่องเรือภาษาไทย ลึกซึ้งใน "
กาพย์ยานี ๑๑"
ถึงโรงเรียน เสียงเด็กๆ ทักทาย "สวัสดีครับครูแพร!" สดใส ผนังห้องประดับภาพวัดพระแก้วขาววับ ชวนให้ยิ้ม เด็กๆ แต่งตัวเรียบร้อย ใบหน้าตื่นเต้นพร้อมเรียนรู้
เข้าห้องเรียน บรรยากาศเปลี่ยนเป็นศาลาชมวิวริมน้ำ นั่งล้อมวงใต้ร่มชิง ไฟแดดยังแรง ครูแพรเริ่มร่ายเวอร์ส "ณ เมืองเพชรบุรี ริมน้ำใสไหลเย็น..." เสียงเด็กๆ เปล่งตาม "คลื่นซัดทรายขาว ละล่องเสียงดนตรี..." บทกลอนไพเราะ เสมือนเรือสำเภาล่องไปด้วยกัน
พักใหญ่ ลงโรงอาหาร กลิ่นหอม "ขนมครอบแกงเลียง" ชวนน้ำลายสอ ครูแพรจัดชุดใหญ่ ข้าวเหนียวทุเรียน หอยผัดฉ่า หมูชุบแป้งทอด ขนมตะโก้ อิ่มจนพุงกาง เด็กๆ บอก "อร่อยเด็ด!" ครูแพรเล่า "นี่อาหารแถวเราเอง รสชาติโบราณ ใช้วัตถุดิบจากทะเลสดๆ เลยนะ"
บ่ายเรียน ชวนเด็กๆ เล่นเกมทายปริศนา "ตามรอยกาพย์ยานี 11" ภาพวาดการ์ตูนสีสันสดใส "อะไรเอ่ย? ส่องแสงระยับ พลิ้วไหวลม..." "ธง!" เด็กๆ ตอบเสียงจิ๊วจับ ฮ่าร่ากันใหญ่
เลิกเรียน เด็กๆ ล้อมหน้า ครูแพร ถามคำถามมากมาย "ครูแพร ทำอย่างไรให้รำกาพย์ยานีสวย?" ครูแพรยิ้มใจเย็นๆ "ฝึกฝนให้คล่อง อ่านบทให้ชัด ฟังจังหวะกลอง อย่ากลัวผิด ยิ้มไป รื่นเริงไป ก็สนุกแล้ว" เด็กๆ พยักหน้าตาจริงจัง
ขับ Isuzu D-Max กลับบ้าน แสงพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา ทาสีทองทั่วผืนน้ำ ครูแพรอมองเด็กๆ รำกาพย์ยานีใต้ร่มไม้ รู้สึกว่าไม่ได้แค่สอนภาษา แต่สอนให้เด็กๆ รู้จักสุนทรียะ ภูมิใจในวัฒนธรรม
คืนนี้ ฝันดี ฝันถึงหนู ป.4 ช่างเจริญ เติบโตเป็นครู นักเขียน นักร้อง แต่ละคนนำภาษาไทย บทกวี ศิลปะ ไปถ่ายทอด ร่ำยี่ เสียงเพลง ให้โลกได้ฟัง ครูแพรยิ้มกว้าง อนาคตของเพชรบุรี สดใส เพราะเด็กๆ เหล่านี้ มีเสียงใสๆ และหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยมรดกของบรรพชน